ลิงค์สนับสนุน

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหรียญที่ระลึก 1 บาท

ครับผม หลังจากได้นำเหรียญหนึ่งบาทในแต่ละรุ่นที่ผมเองได้เก็บสะสมไว้ได้บ้างนั้น ทีนี้เรามาดูกันครับผม ว่าเหรียญ 1 บาท นั้นได้มีการทำออกมาในช่วงไหนกันบ้างและเนื่องในโอกาสอะไรบ้าง เท่าที่ข้อมูลพอหามาได้มีอยู่ประมาณนี้ครับผม

  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเสด็จนิวัตพระนคร นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกรัชกาลที่ 9 พระชนมายุครบ 3 รอบ นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 6 นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกองค์การอนามัยโลก ครบ 25 ปี
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกกีฬาแหลมทองครั้งที่ 8 นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระชนมายุครบ 75 พรรษา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พ.ศ. 2520
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯ ทรงสำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย นำเสนอไปแล้ว
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชิธีสถาปนาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 8
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในวันอาหารโลก
  • เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีกาญจนาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังขาดหายไปอีกเยอะเลยครับผม ไม่เป็นไรครับผม หาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอเองครับผม วันนี้คุยกันต่อเรื่องเหรียญบาทครับผม หลังจากที่เราได้เร่ิมใช้เหรียญ 1 บาทเล็ก มากันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 นั้น มาดูตัวเลขการผลิตออกมาใช้ในแต่ละปีแล้ว เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเอาเสียเลยครับผม ก็เหมือนมักจะมีคนพูดไว้ว่า ถ้าอยากมีเงินล้าน ไม่เห็นจะยากเลย เก็บเหรียญบาทให้ได้ ล้านเหรียญ ก็ได้แล้ว [แต่ทำไมมันทำไม่ได้ซักทีน่ะ]
ปีที่ผลิตจำนวนที่ผลิต 
2529  ผลิตออกมาจำนวน  4,200,000  เหรียญ
2530  ผลิตออกมาจำนวน  329,471,000  เหรียญ
2531  ผลิตออกมาจำนวน  391,442,000  เหรียญ
2532  ผลิตออกมาจำนวน  466,684,000  เหรียญ
2533  ผลิตออกมาจำนวน  409,924,000  เหรียญ
2534  ผลิตออกมาจำนวน  329,946,380  เหรียญ
2535  ผลิตออกมาจำนวน  426,230,000  เหรียญ
2536  ผลิตออกมาจำนวน  235,623,000  เหรียญ
2537  ผลิตออกมาจำนวน  475,200,000  เหรียญ
2538  ผลิตออกมาจำนวน  589,394,650  เหรียญ
2539  ผลิตออกมาจำนวน  98,487,000  เหรียญ
2540  ผลิตออกมาจำนวน  350,660,600  เหรียญ
2541  ผลิตออกมาจำนวน  176,932,000  เหรียญ
2542  ผลิตออกมาจำนวน  224,389,000  เหรียญ
2543  ผลิตออกมาจำนวน  427,589,000  เหรียญ
2544  ผลิตออกมาจำนวน  393,460,000  เหรียญ
2545  ผลิตออกมาจำนวน  269,375,000  เหรียญ
2546  ผลิตออกมาจำนวน  280,691,000  เหรียญ
2547  ผลิตออกมาจำนวน  562,018,000  เหรียญ
2548  ผลิตออกมาจำนวน  1,470,538,000  เหรียญ
2549  ผลิตออกมาจำนวน  749,861,000  เหรียญ
2550  ผลิตออกมาจำนวน  618,918,316  เหรียญ

เห็นจำนวนที่ผลิตออกมาในแต่ละปีแล้ว เป็นงัยครับผม อยากมีเงินล้าน ก็เก็บเหรียญบาทให้ได้ล้านเหรียญครับผม ง่ายๆ ครับ แล้วเจอกันครับ
"คนชงเหล้า"

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก wikipedia ครับผม

เหรียญ 1 บาท

ครับผม สวัสดีแฟนๆ บล็อคของ Coin2go และก็บล็อค "คนชงเหล้า"ด้วยนะครับผม ถ้าเป็นแฟนบล็อคนี้หรือว่าเคยเข้ามาดูบล็อคนี้ก็น่าจะเคยเข้าไปดูในบล็อค "คนชงเหล้า" กันบ้างแล้วนะครับผม ตอนนี้บล็อคของ "คนชงเหล้า"นั้นก็เร่ิมที่จะมีข้อมูลต่างๆ เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ และก็จะทำการเพิ่มเติมข้อมูลอย่างต่อเนื่องต่อไปครับผม รับรองว่ากลับมาแต่ละครั้งต้องมีข้อมูลใหม่ๆ มาให้ได้อ่านกันแน่นอนครับผม ต้องติดตามครับผม และหรือว่าใครที่อยากรู้การอัพเดททันที่ที่มีการลงบทความใหม่ๆ ก็เข้าไปกด Like ที่หน้าเพจ konchonglao ได้เลยนะครับผม จะได้ติดตามกันง่ายขึ้นครับผม หรือว่าใครที่เล่น Line[คนชงเหล้า] หรือว่า Twitter ก็เข้ามาติดตามกันได้ครับผม บล็อคของ "คนชงเหล้า" นั้นเป็นแค่บล็อคเล็กๆ ครับผม แต่ว่าก็พอมีความหลากหลายและมุมมองในการบอกเล่า ที่บอกออกมาจากประสบการณ์จริงครับผม เล่าและถ่ายทอดแบบว่าเล่าสู่กันฟังในวงเหล้า ไม่เน้นวิชาการมากจนเกินไป แต่ว่าองค์ความรู้มันก็ต้องมีบ้างครับผม และนอกจากเรื่องของเหล้าแล้ว บล็อคต่างๆ ที่อยู่ในบล็อคของ "คนชงเหล้า" นั้นก็เป็นอะไรที่หลากหลายอยู่พอสมควร ไม่ว่าส่ิงสะสมต่างๆ และก็ข้อมูลบทความทั่วไป ท่องเที่ยว รถ มอไซค์ มือถือ งานฝีมือ ความรู้เกี่ยวกับงานเรือ และก็อีกหลายๆ อย่างที่ได้เขียนได้รวบรวมไว้ ยังงัยก็ขอบคุณทุกๆคนที่ได้เข้ามาดู มาติดตามกันนะครับผม
วันนี้กลับมาพร้อมกับเรื่องราวของ เหรียญ 1 บาท ไทย ในอดีต ที่ไม่นานมามากนัก แต่ว่าก็นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หลายๆ คนอาจจะเคยเจอ เคยใช้่กันมาบ้าง แต่ว่าเด็กๆ รุ่นหลังๆ ก็คงจะเคยเห็นแต่ว่่าคงไม่มีโอกาสได้ใช้ก็มี ครับผม เหรียญ 1 บาท เมื่อสมัยก่อน ที่จะเปลี่ยนมาเป็นรู่นปัจจุบันนี้ ก็จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่านี้มากเลย ซึ่งหลายๆ คนคงจะจำกันได้ ขนาดว่าเหรียญ 50 สตางค์ในยุคนั้นก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 1 บาท รุ่นปัจจุบันเลยครับผม แต่ก็อย่างว่าแหละครับผม ทุกอย่างก็มักจะมีวิวัฒนาการไปตามขั้นตอนของมัน ดูอย่างโทรศัพท์ตอนออกมาใหม่ๆ กับตอนนี้ซิ แต่อย่างว่าแหละ เมื่อก่อนแข่งกันเล็กได้พักนึง ตอนนี้หันมาแข่งกันใหญ่อีกแล้ว [จอใหญ่] แต่ว่า Sim นั้นก็เร่ิมจะเล็กลง เล็กลงเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนเป็น Sim ที่มาแบบเป็นบัตรใหญ่ๆ เลยในยุคแรกๆ ต่อมาก็เหลือเท่า Sim ปัจจุบันที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มาต่อที่  Micro Sim แล้วตอนนี้ล่าสุดมันก็เป็น Nano Sim แล้ว [iPhone 5] อีกหน่อยก็คงจะเป็น   Super Nano อะไรหรือเปล่า อ้าวนอกเรื่องมาซะไกลเลย กลับไปดูเหรียญบาทกันต่อดีกว่าครับ

เหรียญนี้สร้างออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2520 เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้าศิรินธร ทรงสำเร็จการศึกษา เป็นบัณฑิตพระองค์แรกในมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย


เหรียญนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 ในการแข่งขัน SEAP GAMES ครั้งที่ 8  ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย


เหรียญนี้หลายๆ คนเรียกกันว่า เหรียญ สมเด็จย่า 75 พรรษา สร้างขึ้นเมื่อวันที่  21 ตุลาคม 2518 


เหรียญนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า เหรียญแรกนาขวัญ


เหรียญนี้ไม่ได้บอกปีที่สร้างไว้ เป็นเหรียญครบรอบ  3 รอบของในหลวง 


เพิ่มคำอธิบายภาพ


เหรียญนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 เนื่องในโอกาส การแข่งขัน กีฬา Asian Games ครั้งที่ 6 



เหรียญบาทรุ่นนี้ เร่ิมออกมาใช้ในปี พ.ศ. 2505 คนทั่วๆ ไปมักเรียกกันว่าเหรียญบาทใหญ่ตราแผ่นดิน


เหรียญรุ่นนี้อออกมาใช้งานในปี พ.ศ. 2517 เรียกกันโดยทั่วไป ว่าเหรียญครุต หรือว่าเหรียญพญาครุต


เหรียญรุ่นนี้ เร่ิมออกมาใช้งานในปี พ.ศ. 2520 รู้จักกันในนามเหรียญบาทเรือสุพรรณหงษ์


เหรียญบาทใหญ่รุ่นสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเหรียญบาทเล็กในรุ่นปัจจุบัน เหรียญนี้ออกมาใช้กันในปีพ.ศ. 2525

นี่แหละครับผม เหรียญหนึ่งบาทใหญ่ก่อนที่จะข้ามมาใช้เหรียญเล็ก ไม่ได้บอกว่ามีอยู่แค่นี้นะครับผม ผมว่ายังมีอีกหลายรุ่นเลยครับผม แต่่ว่าที่เอามาให้ดูนี้คือของที่ผมเองสะสมไว้นะครับผม ไม่ได้บอกว่ามีครบทุกเหรียญนะครับผม ยังมีอีกเยอะเลยครับผม เดี๋ยวจะหามาเพ่ิมเติมให้ดูกันเล่นๆ ครับ ถ้าใครอยากเก็บขึ้นมาบ้างก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปครับผม ทุกๆอย่างในโลกนี้ เร่ิมต้นช้าก็ยังดีกว่าไม่เร่ิมทำอะไรเลยครับผม มีความสุขในการสะสมครับผม แล้วจะกลับมาใหม่ครับ
"คนชงเหล้า"


วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหรียญ 2 บาท

สวัสดีครับผม แฟนๆ ของบล็อคนี้ และก็แฟนๆ ของบล็อคของ "คนชงเหล้า" ทุกๆคนครับ และสำหรับใครที่พึ่งจะผ่านเข้ามาในวันนี้ จะด้วยความบังเอิญ หรือว่าจากการแนะนำ หรือจากการบอกต่อของเพื่อน ก็ต้องขอกล่าวกคำว่ายินดีต้อนรับครับผม และก็ขอบคุณทุกๆ คนที่ได้เข้ามาอ่าน มาติดตามกันมาซักระยะนึงแล้ว บล็อคนี้พึ่งเปิดได้ยังไม่ถึงเดือนเลยครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงอาจจะยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักเสียด้วยซ้ำว่ามันมีด้วยเหรอคนที่เขียนเรื่องราวอย่างนี้ แต่สำหรับใครที่ได้เข้ามาอ่านแล้ว เจอแล้ว และรู้สึกว่าชอบ หรือว่ามันก็ดูน่าสนใจอยู่นี่ ก็รบกวนฝากบอกหรือผ่านเรื่องราวตรงนี้ไปให้เพื่อนๆ ได้เข้ามาเห็น เข้ามารู้จักกันบ้างนะครับผม 
ก็อย่างที่บอกครับผม ว่านี่ไม่ใช่บล็อคเดียวของผม ยังมีอีกหลากหลายบล็อค หลากหลายเรื่องราวที่อยากให้ทุกๆคนได้เข้ามาดู ได้เข้ามาเห็น มาร่วมแบ่งปันกันครับผม อยากจะรบกวนให้เข้าไปดูในเพจของ "คนชงเหล้า" ครับ ในนั้นจะเป็นแหล่งรวบรวมบล็อคต่างๆ และข้อมูลอัปเดทของแต่ละบล็อคในแต่ละวันครับผม หรือว่าถ้าอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับบล็อคทั้งหมดของผม "คนชงเหล้า" แล้วล่ะก็ กด Like ที่หน้าเพจได้เลยครับ ทุกครั้งทีมีการอัปเดทบล็อคของผม ในแต่ละวัน ก็จะขึ้นโชว์ที่หน้าเพจ ของ "คนชงเหล้า" ทุกวันครับ
ยังงัยก็ฝากให้เข้ามาดูและก็บอกต่อส่งผ่านเรื่องราวให้เพื่อนๆ ด้วยนะครับผม ตอนนี้เป็นแค่การเร่ิมต้นเขียนบล็อคครับผม แต่ว่าก็พยายามหาข้อมูลและบทความมาลงเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ครับผม คนเขียนหนังสือก็ปรารถนาอยากให้มีคนอ่าน คนเขียนบล็อกก็เฉกเช่นเดียวกันครับผม ย่ิงมีคนอ่านมาก มันก็ย่ิงทำให้เรามีกำลังใจที่จะเขียน ที่จะหาข้อมูลมานำเสนออย่างต่อเนื่องประมาณนั้น 
ยังมีอีกหลายหลายเรื่องราวที่รอคอยให้หลายๆ คนได้เข้ามาดูกันครับผม 
วันนี้มีอีกหนึ่งชุดของเหรียญไทยมาให้ดูกันครับผม ก็อย่างที่บอกครับ มันเป็นเหรียญทั่วไปครับ ไม่ใช่เหรียญเก่าเก็บตั้งแต่สมัยเจ้าคุณปู่อะไรอย่างนั้นหรอกครับ คุณค่าของการเก็บสะสมต่างๆ บางครั้งมันก็อยู่ที่ใจครับผม ลองมาดูกันเลยดีกว่าครับ เป็นเหรียญ 2 บาท ในรุ่นต่างๆ ครับผม หามาเจอ มีอยู่ 9 รุ่นด้วยกัน ดังนี้เลย


มหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 5 รอบ ราชินี พ.ศ. 2535


50  ปี ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535


100 ปี การฝึกหัดครูไทย พ.ศ. 2535


100 ปี แห่งการสถาปนาสถาบันอัยการ พ.ศ. 2536

100 ปี สภากาชาดไทย พ.ศ. 2536




เหรียญรางวัลแม็กไซไซ สาขาบริการสาธารณะ พ.ศ. 2534


60 ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. 2536


ปีแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศไทย พ.ศ. 2534

ครับผม เล็กๆน้อยๆ สำหรับวันนี้ครับผม เดี๋ยวครั้งหน้า จะไปรื้อไปหาเหรียญนอก ที่ไม่ค่อยได้เห็นซักเท่าไหร่ มาให้ดูครับผม แล้วเจอกันครับ
"คนชงเหล้า"

วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ความรู้เกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ไทย

สวัสดีครับผม แฟนๆบล็อคของ "คนชงเหล้า" ทั้งหลาย อย่าพึ่งตกใจไปครับเข้ามาถูกบล็อคแล้วครับ บล็อคนี้ก็คือ บล็อค Coins Collector นี่แหละครับผม เพียงแต่ว่ามันเขียนขึ้นด้วยกระผม "คนชงเหล้า" ครับผม เข้ามาถูกบล็อคแล้วครับผม ส่วนบล็อคของ "คนชงเหล้า" ก็สามารถเข้าไปดูได้นะครับ http://konchonglao.blogspot.com บล็อคนั้นก็จะเป็นบล็อคหลักของผม เน้นเรื่องเกี่ยวกับเหล้าและเครื่องดื่มผสม Cocktails ก็อย่างที่ทุกคนคงพอรู้กันแล้ว ว่าข้ากระผมก็คือคนชงเหล้า Bartender  ก็เลยใช้นามแฝงว่า "คนชงเหล้า" เรื่องราวที่ต้องการถ่ายทอดนั้นเรื่องหลักเลยที่คิดว่าตัวเองพอมีความรู้และประสบการณ์อยู่บ้างก็คือเรื่องเกี่ยวกับเหล้านะแหละครับ ก็เลยสร้างบล็อคนั้นขึ้นมา ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเพิ่มเติมข้อมูลอยู่นะครับ พยายามลงบทความให้ได้เกือบทุกวัน ตอนนี้ก็พอมีข้อมูลให้ได้อ่านกันบ้างแล้วในระดับนึงครับ และก็จะเพิ่มเติมข้อมูลไปเรื่อยๆ ครับผม ยังงัยก็ต้องเข้าไปติดตามกันนะครับ และพอเข้าไปในบล็อคของ "คนชงเหล้า" แล้ว จะมีลิงค์ที่เกี่ยวกับบล็อคของ "คนชงเหล้า" ทั้งหมดอยู่ที่นั้น สามารถตามลิงค์เข้าไปดูเข้าไปอ่านบล็อคที่คิดว่าตัวเองสนใจได้เลยครับ มีค่อนข้างหลากหลายครับ ต้องแวะไปดูครับ
กลับมาที่เรื่องของเหรียญกันต่อครับผม วันนี้มีบทความดีๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังสะสมมาฝากนักสะสมและแฟนบล็อคของ "คนชงเหล้า" กันทุกๆคนครับ
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) มีการใช้หอยเบี้ยและพดด้วง ในการชำระเงิน การค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศ มีการใช้เบี้ยทองแดงในต่างประเทศ จึงมีพระราชดำริให้ทำเบี้ยทองแดงจากประเทศอังกฤษมาเป็นตัวอย่าง 3 ชนิด ในปี จ.ศ.1197 หรือ พ.ศ. 2378 เมื่อทอดพระเนตรแล้วไม่โปรดในลายตรา จึงมิได้นำออกใช้ แต่ก็ทรงพระราชประสงค์ที่จะทำเหรียญรูปกลมแบนอย่างสากล แต่ยังไม่สำเร็จก็เปลี่ยนรัชกาล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) การค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศก็ได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พ่อค้าชาวต่างประเทศเข้ามาค้าขายมากขึ้นและได้นำเงินเหรียญของตนมาแลกกับเงินพดด้วงจากรัฐบาลไทยเพื่อนำไปซื้อสินค้าจากราษฎร แต่ด้วยเหตุที่เงินพดด้วงผลิตด้วยมือจึงทำให้มีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกและการค้าของประเทศเสียประโยชน์ พระองค์จึงมีพระราชดำริที่จะเปลี่ยนรูปเงินตราของไทยจากเงินพดด้วงเป็นเงินเหรียญ ในปี พ.ศ. 2399 ได้ทดลองทำเหรียญรูปกลมแบนอย่างสากล โดยใช้ค้อนทุบตีโลหะให้เป็นแผ่นแบน แล้วตัดเป็นรูปเหรียญกลม ให้ได้ตามขนาดและน้ำหนัก แล้วใช้แม่ตราตีประทับ (HAND-HAMMERRING METHOD) แต่ผลิตได้ช้าและไม่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีการใช้แม่ตราตีประทับกับเงินเหรียญต่างประเทศ เพื่อให้ราษฏรยอมรับ ในปี พ.ศ. 2400 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้คณะทูตไทยไปเจริญสัมพันธไมตรีกับสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรียที่ประเทศอังกฤษ สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย ได้จัดส่งเครื่องทำเหรียญเงินขนาดเล็กเข้ามาถวาย ทำงานด้วยแรงงานคนโดยใช้วิธีแรงอัดแบบ SCREW PRESS METHOD เป็นราชบรรณาการ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าให้จัดทำเหรียญกษาปณ์จากเครื่องจักรขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกกันว่า "เหรียญเงินบรรณาการ" ในขณะเดียวกันคณะทูตก็ได้สั่งซื้อเครื่องจักรทำเงินชนิดแรงดันไอน้ำ จากบริษัท เทเลอร์ เข้ามาในปลายปี 2401 พระองค์จึงโปรดเกล้าให้สร้างโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ขึ้นที่หน้าพระคลังมหาสมบัติ ในพระบรมมหาราชวัง ติดตั้งเครื่องใช้งานได้เมื่อ ปี พ.ศ. 2403 พระราชทานนามว่า "โรงกระสาปณ์สิทธิการ" ในสมัยนี้จึงถือว่ามีการใช้เหรียญกษาปณ์แบบสากลนิยมขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมาแม้ได้ประกาศให้ใช้เงินตราแบบเหรียญแล้วก็ยังโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เงินพดด้วงอยู่เพียงแต่ไม่มีการผลิตเพิ่มเติม ได้ผลิตตามแจ้งที่แจ้งแก่กระทรวงพระคลังมหาสมบัติเมื่อ ปี พ.ศ. 2438 พบว่ามีเหรียญตรามงกุฎดังกล่าวให้แลกอยู่ 6 ราคา ด้วยกัน คือ ราคา สองบาท หนึ่งบาท สองสลึง หนึ่งสลึง หนึ่งเฟื้อง และ สองไพ แต่ผลิตได้น้อยไม่พอแก่ความต้องการ นอกจากนี้ยังมีเหรียญ หนึ่งตำลึง กึ่งตำลึง และกึ่งเฟื้อง แต่ไม่ได้นำออกใช้ จึงเป็นพระมหากษัตริย์ไทย พระองค์แรกที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิรูปเงินตราไทย จากที่เคยใช้เงินพดด้วง หรือเงินกลมที่ใช้มาแต่โบราณกาลให้มาใช้เงินเหรียญหรือเงินแบน แบบสากล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงมาตรา เงินตราไทย ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น คือ  ตำลึง บาท สลึง เฟืองชั่ง เป็นระบบโดยใช้หน่วยเป็นบาท และสตางค์ คือ 100 สตางค์ เป็น 1 บาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2441 อันเป็นมาตราเงินตราไทยมาจนถึงปัจจุบัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำพระบรมรูปของพระองค์ประทับลงบนเหรียญ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำพระบรมรูปของพระมหากษัตริย์ไทยประทับลงบนเหรียญกษาปณ์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้มีการผลิตเหรียญกษาปณ์ เริ่มจากเหรียญทองแดงและเหรียญดีบุกตราพระบรมรูป - ตราแผ่นดิน ใน พ.ศ. 2493 ผลิตเหรียญราคา 5 บาท ขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2515 ผลิตเหรียญราคา 10 บาท ขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2531 และได้มีการผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก รวมทั้งมีการพัฒนาจัดทำเหรียญที่ระลึก ต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน คือ
1. เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน (Circulated coins) เป็นเหรียญกษาปณ์ที่ใช้หมุนเวียนกันอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน มี 9 ชนิดราคา คือ 10 บาท, 5 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์, 25 สตางค์, 10 สตางค์, 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ แต่ที่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมี 6 ชนิดราคา คือ 10 บาท, 5 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์, 25 สตางค์ ส่วนเหรียญชนิดราคา 10 สตางค์, 5 สตางค์ และ1 สตางค์ มีใช้ในทางบัญชีเท่านั้น และในปัจจุบันก็ไม่ได้มีเหรียญจำพวกนี้ใช้แล้ว 
2. เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก (Commemorative coins) เป็นเหรียญกษาปณ์ที่ผลิตออกใช้ในวโรกาสและโอกาสที่สำคัญตทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือเหตุการณ์ระหว่างประเทศ โดยจัดทำ 2 ประเภท คือ ขัดเงา และไม่ขัดเงา
ข้อแตกต่างระหว่างเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกก็คือการวางลวดลายด้านหน้าและด้านหลัง โดนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนจะวางลวดลายแบบ American Turning ซึ่งจะต้องพลิกดูลวดลายด้านหลังในแนวดิ่ง สำหรับเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกได้จัดวางลวดลายแบบ European Turning ซึ่งจะต้องพลิกในแนวนอนเพื่อดูลวดลายด้านหลัง
3. เหรียญที่ระลึก (Medal) เป็นเหรียญที่ผลิตขึ้นเนื่องในวโรกาสและโอกาสที่สำคัญต่างๆ ซึ่งมีความแตกต่างจากเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกตรงที่จะ ไม่มีราคาหน้าเหรียญ เนื่องจากมิใช่เงินตราจึงไม่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

ครับผม นี้ก็คือความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับ เหรียญไทยของเราครับผม การเก็บนอกจากคุณค่าของเหรียญที่หลายๆคนมักให้ความสนใจของมูลค่าและราคาตลาด แต่ว่าอีกในความรู้สึกนึงผมว่าการได้เก็บหรือสะสมอะไรที่เรารักและเราชอบแล้ว มันมีคุณค่าโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว และที่สำคัญมันมีคุณค่าทางด้านจิตใจครับผม มีความสุขกับการเก็บสะสมทุกๆคนครับผม
"คนชงเหล้า"

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหรียญสะสม พิเศษ

สวัสดีครับ ทุกๆคน เป็นยังงัยกันบ้างครับ ฝนตก รถติด อาการเป็นพิษ จิตแจ่มใสกันทุกคนดีหรือเปล่า ถามไปเรื่อย ยังงัยต้องโดนซักคนนะแหละ เมื่อวันก่อนคุยกันไว้เรื่อง เหรียญ Quarter แบบที่มีรูปประจำแต่ละรัฐของ U.S.A. ค้างเอาไว้ เอาไว้คอยให้ได้ครบก่อน เดือนหน้านี้เพื่อนๆ ก็จะกลับมากันเดี๋ยวเผื่อครบก็จะนำมาลงให้ดูกัน แต่ว่าถ้าไม่ได้มาก็จะเอาเท่าที่มีอยู่ [48 State] มาให้ดูครับผม บางรัฐนั้นก็มีเป็น 10 เหรียญ ยังพอเอาไว้ได้แลกเปลี่ยนกับคนอื่นที่เขาไม่มีได้บ้าง แต่ว่าบางรัฐนี่ซิ มีแค่เหรียญเดียวเอง ก็มีอยู่หลายรัฐเหมือนกัน เอาเป็นว่าอดใจคอยอีกนิดนึง
วันนี้ไปเจอเหรียญเก่าๆที่ไม่ได้เอาออกมาดูนานแล้ว รื้อไปรื้อมาไปเจอเข้าพอดี ก็เห็นว่ามันก็เป็นเหรียญที่น่าสนใจ [สำหรับผม] ก็เลยอยากจะเอามาให้ทุกคนได้ดูกันด้วยเช่นกัน
เหรียญนี้ เป็นเหรียญเนื้อเงินสองกษัตย์  เป็นเหรียญที่ระลึกใน Casino แต่ว่าถ้าซื้อเอาก็ประมาณ 90 เหรียญ US. Dollars ณ ปีประมาณ 2002 หรือ 2003 นี่แหละ ถ้าจำไม่ผิด
ใครพอรู้บ้างครับว่า .999 SILVER HSP นี่มันน่าจะหมายถึงอะไร


โลโก้นี้ใครที่ทำงานเรืออยู่หรือว่าใครทีี่เคยไปเที่ยวเรือสำราญ น่าจะรู้จักครับ และมันก็คือสถานที่ทำงานของผม "คนชงเหล้า" คนนี้อยู่ด้วยครับผม



เหรียญนี้ ถือว่าเป็นเหรียญที่เก่าที่สุด และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดที่ผมเก็บไว้ เป็นเหรียญรุ่นปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ครับผม 

ราคาหน้าเหรียญ ๑ สตางค์ รัฐบาลไทย
ครับผม วันนี้ขอนำเสนอไว้แค่นี้ก่อนครับ กำลังรวบรวมรูปภาพชุดต่อไปอยู่ครับผม เสร็จแล้วจะรีบกลับมารายงานให้ดูกันครับ ในระหว่างที่รอนี้ อยากแนะนำให้ลองเข้าไปอ่านผลงานต่างๆของผม "คนชงเหล้า" ดูครับผม ถ้าสนใจก็เข้ามาติดตามเข้ามาดูกันต่อไปครับ

Cocktails   Mocktails   Stamp    Car Model    Handmade  Toys    Coke  

ครับผม นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในผลงานการเขียนบล็อคของผมครับ ยังงัยก็ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันตลอดไปนะครับ และก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่ผ่านเข้ามาในหน้านี้และหน้าต่อๆไปของ "คนชงเหล้า" ครับ


วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหรียญเก่า 10 Cents U.S.A.

ครับ วันนี้มาต่อกันอีกเรื่องของเหรียญเก่า ที่มีอายุตั้งแต่ประมาณ 40 ปีขึ้นไปครับ ก็ยังคงเป็นเหรียญใช้งานทั่วไป ซึ่งคนทั่วไปที่เขาไม่ได้สนใจว่าจะมาเก็บให้เป็นของเก่าของสะสมเขาก็คงไม่ได้สนใจมาดูหรอกครับว่ามันเป็นเหรียญปีไหน และโดยเฉพาะเหรียญ 10 Cents  ที่ขนาดมันก็จะแสนเล็กอย่างนั้น ขนาดผมเวลาจะดูปีของเหรียญยังต้องใช้แว่นส่องพระช่วยเลย เพราะว่าถ้าเหรียญเก่าและเล็กนี่ตัวเลขก็ยิ่งจะไม่ชัดไปใหญ่เลยครับ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นข้อดีเพราะว่าแต่ละปีเราก็ได้เหรียญเก่าๆพวกนี้มาจากการที่เขาทอนให้เราเป็นเหมือนเหรียญเงินที่ใช้งานทั่วๆไป ทุกครั้งที่ผมออกไปเท่ียวไปซื้อของข้างนอกผมจะกลับมาพร้อมกับเศษเหรียญทุกทีไปไม่ว่าจะไปประเทศไหน และทุกๆครั้งผมก็ไม่เคยจะเอาเศษเหรียญนั้นกลับไปใช้อีก ผมก็จะเก็บกลับบ้านตลอด บางทีต้องหากระป๋องหรือกล่องมาใส่เพราะว่ามันเริ่มเยอะมากกว่าปรกติ แต่ก็แก้นิสัยนี้ไม่ได้ซักทีกลับมาบ้านทีไรมีเหรียญมานั่งเลือกกันทุกทีไป
เอาล่ะครับเดี๋ยวจะนอกเรื่องไปมากกว่านี้ วกกลับมาเข้าเรื่องของเรากันเลยดีกว่าครับ วันนี้มีเหรียญเก่า 10 Cents ของ U.S.A. มาฝากกันแต่ว่าจะมีพ่วงท้ายแถมมาอีกนิดหน่อยเป็นเหรียญของ Panama กับ Barbados พ่วงแถมมามีแค่ไม่กี่เหรียญ และก็ไม่ได้ไปมานานแล้ว แต่ว่าเพื่อนกำลังจะกลับมาเดือนหน้าก็เช่นเดิมครับของฝากที่ขอจากเพื่อนๆ ก็คือเศษเหรียญของประเทศนั้นๆ ก็พอไม่เอาอะไรมาก เพื่อนๆ ก็เลยชอบไปเลยไม่ต้องไปหาซื้ออะไรให้มันยุ่งยากแค่เก็บเศษเหรียญที่ใช้ไว้ก็พอแล้ว มาดูเหรียญกันต่อดีกว่าครับ
เหรียญ 10 Cent ปี 1962...1965...1966...1967...1968...1969

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1962

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1965

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1966

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1967

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1968

เหรียญ 10 Cent U.S.A. ปี 1969

เหรียญ 25 Cents หรือที่เรียกกันว่า เหรียญ Quarter ของ U.S.A. เช่นกัน ปี 1984

เหรียญ 25 Cents หรือที่เรียกกันว่า เหรียญ Quarter ของ U.S.A. เช่นกัน ปี 1965

เหรียญ 25 Cents หรือที่เรียกกันว่า เหรียญ Quarter ของ U.S.A. เช่นกัน ปี 1965

ด้านหลังของเหรียญ Quarter U.S.A. จะเป็นรูปพยานกอินทรีย์ แต่บางเหรียญก็จะเป็นรูปของรัฐต่างๆใน U.S.A. ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ตอนนี้เก็บได้แล้ว 48 รัฐ เดี๋ยวครบ 50 เมื่อไหร่จะเอามาให้ดูกัน


เหรียญนี้เป็นของ Barbados ไม่มีอะไรน่าสะดุดตาทุกครั้งได้มาก็เก็บไว้ปรกติ แต่ว่าครั้งนี้ได้มาเป็นเหรียญที่ค่อนข้างเก่าก็เลยลองดูที่ปี ปรากฎว่าเป็นปี 1980 ซี่งก็ถือว่าไม่เก่าไม่ใหม่ แต่ว่าเหรียญที่ใช้
งานทั่วๆไปส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ปี 1990 กว่าๆ ถึงปี 2000 ขี้นไปซะมากกว่า 

นี่ก็อีกเหรียญ เก่าขึ้นมาอีกนิดนึงเป็นของปี 1978

เหรียญนี้เป็นของ Panama ค่อนข้างเก่าพอสมควร แก่กว่าคนเขียนอีก อ้าวเลยรู้อายุเลย เหรียญนี้เป็นเหรียญปี 1970 ดูจากเน้ือเงินแล้วค่อนข้างวาวพอสมควร และส่ิงนึงที่เหรียญเก่าๆที่อายุประมาณนี้มีคือความขลังของเหรียญ ที่แน่ๆ การดีไซน์ที่ผ่านมาตั้ง 30-40 ปีแล้วมันก็ยังดูดีอยู่ในปัจจุบัน

แถมต่อท้ายกันนิดนึง เหรียญนี้เป็นของ Malaysia ครับ เป็นเหรียญเล็กเหมือนกัน เป็นปี 1968 ครับ 

อีกด้านของเหรียญ

นี่ก็อีกเหรียญค่อนข้างเก่าพอๆกับรุ่นพี่ด้านบน เป็นเหรียญของ Malaysia เช่นกัน ปี 1979 

เหรียญนี้มาไกลและก็ค่อนข้างเล็กมากลองดูเปรียบเทียบกับเหรียญบาทไทยด้านล่าง เหรียญนี้เป็นของ Nederland ครับ ปี 1977 สภาพขลังน่าดูพอสมควร

เปรียบเทียบกับเหรียญบาทบ้านเราเล็กกว่าตั้งเยอเลยครับ
เอาล่ะครับผม เป็นงัยกันบ้างครับวันนี้ก็มีของฝากมาพอสมควรแล้วเดี๋ยวครั้งหน้ามาดูกันว่าจะเป็นเรื่องอะไรดี ต้องขอเวลาไปร้ือหีบสมบัติก่อนครับ แล้วเจอกันครับ